Pages

Showing posts with label Panda Bear. Show all posts
Showing posts with label Panda Bear. Show all posts

06 June 2013

TRACK | Daft Punk: "Doin' it Right (feat. Panda Bear)"


Daft Punk: "Doin' it Right (feat. Panda Bear)"
from Random Access Memories (2013)

Daft Punk + Panda Bear เป็นส่วนผสมที่ยั่วยวนเหลือเกิน ถือเป็นอีกไฮไลท์จากอัลบัมที่coolที่สุดที่คนlameที่สุดจะชอบได้ของปีนี้...ต่อให้ไม่ชอบ...ก็เชื่อว่าท่านจะโดนสะกดจิตให้ฮัมintroของเพลงนี้ออกมาแน่ๆ

09 October 2011

LIST | 20 Most Played Tracks of the 3rd 1/4 of 2011

http://26.media.tumblr.com/tumblr_lsrad1WYlX1qb118bo1_500.jpg

ผ่าน ไปแล้ว'9เดือน'หรือ'3 quarters'ของปี2011...เร็วมากๆ--เราเข้าสู่โค้งสุดท้าย--quarter สุดท้าย--3เดือนสุดท้ายของปี2011แล้วนะเนี่ย และด้วยวาระนี้...เช่นเดียวกับ3เดือนแรก และ 3 เดือนถัดมา...ผมให้ipodของผม รายงาน20เพลงที่ฟังบ่อยที่สุดในquarter -- เลื่อนลงไปดูข้างล่างได้เลยครับ

01 Wu Lyf - Dirt
02 Destroyer - Blue Eyes
03 SBTRKT - Trials of the Past
04 The Tallest Man On Earth - Weather of a Killing Kind
05 Kurt Vile - Baby's Arm
06 Tyler The Creator - Yonkers
07 Lana Del Rey - Video Games
08 Metronomy - The Bay
09 Shabazz Palaces - Swerve... The reeping of all...
10 Unknown Mortal Orchestra - FFunny Ffends
11 Wu Lyf - Heavy Pop
12 Los Campesinos! - By Your Hand
13 EMA - California
14 Panda Bear - Surfers Hymn
15 Bon Iver - Holocene
16 SBTRKT - Pharoahs
17 Jamie Woon - Lady Luck
18 Nicolas Jaar - Too Many Kids Finding Rain In The Dust
19 Araabmuzik - Streetz Tonight
20 Cold Specks - Holland

และย้อนไปดูของ3เดือนแรก และ 3 เดือนถัดมา...ได้ตามศรัทธา

22 June 2011

MUSIC VIDEOS | Dirty Beaches, Florrie, Jonti, Katy Perry, Maserati, Metronomy, Memory Tapes, Panda Bear, Trust, White Lies

http://24.media.tumblr.com/tumblr_ln71qqC97C1qb118bo1_500.jpg

รวมมิวสิควีดีโอเจ๋งๆที่ข้าพเจ้าประทับใจ ในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

Dirty Beaches - Speedway King [dir. Alex Zhang Hungtai]
Florrie - Experimenting with Rugs [dir. ]
Jonti - Firework Spraying Moon [dir. Henry DeMaio]
Katy Perry - Last Friday Night (T.G.I.F.) [dir. Marc Klasfeld]
Killola “She’s A Bitch” [dir. Hank Friedmann]
Maserati “Pyramid of the Sun” [dir. Daniel Garcia]
Metronomy - The Bay [dir. David Wilson]
Memory Tapes “Yes I Know” [dir. Eric Epstein]
Panda Bear - "Surfer's Hymn"
R. Kelly - Radio Message [dir. ]
Tensnake - Something About You [dir. pondr]
Trust - Candy Walls [dir. Eva Michon]
White Lies - Holy Ghost [dir. Canada]

19 June 2011

TRACK | Panda Bear: "Surfer's Hymn"

http://26.media.tumblr.com/tumblr_lmzux6ea2E1qb118bo1_500.png
Panda Bear: "Surfer's Hymn"
from Tomboy (2011)

ทุกครั้งที่พูดถึงPanda Bearมักจะต้องกล่าวถึงอิทธิพลของThe Beach Boysเสมอๆ ไม่ว่าจะไลน์เสียงประสานที่ซับซ้อนและความหัวก้าวหน้าที่พร้อมจะค้นหาซาวน์ที่แปลกใหม่ ...Panda Bearมีเพลงชื่อ Surfer's Hymnซะเลย! Beachyพอไหม? นี่อาจเป็นเพลงที่ชอบมากที่สุดในอัลบัมTomboyเลยก็ได้ ซาวน์สดชุ่มฉ่ำมากๆ เสียงคลื่นเอย... เสียงกลองเอย...เสียงหอนๆอะไรก็ไม่รู้มากมาย สะใจหูมากๆ

24 May 2011

TRACK | Zomby: "Things Fall Apart" (ft. Panda Bear)

http://30.media.tumblr.com/tumblr_llgm9ymDgs1qb118bo1_500.jpg
Zomby: "Things Fall Apart" (ft. Panda Bear)
from Dedication (2011)

เห็นชื่อ Zombyอยู่ในบรรทัดเดียวกับPanda Bearแล้วจะไม่รู้สึกตื่นเต้นได้ยังไงกันเล่า -- Zombyเป็นหนึ่งศิลปินที่วนเวียนอยู่ในกระแส'dubstep'ที่นับวันจะแข็งแรงและเมนสตรีมขึ้นเรื่อยๆ(อย่างน่ายินดี) ส่วนPanda BearคือสมาชิกAnCoผู้ที่นอกจากมีงานsoloยอดๆมากมายแล้ว ยังเป็นขาประจำที่ชอบแจมเขาไปทั่ว ดังนั้นคาดหวังได้เลยว่าจะได้ฟังซาวน์อิเล็กโทรนิคแสบๆกับเสียงร้องประสานฟุ้งๆเท่ห์ๆ

mp3:: Zomby :: Things Fall Apart [feat. Panda Bear] (via)

13 February 2011

TRACK | Panda Bear: "Last Night at the Jetty" (2011)

http://28.media.tumblr.com/tumblr_lgisqfGLLc1qb118bo1_500.png
Panda Bear: "Last Night at the Jetty"
from Tomboy (2011)

อีกหนึ่งเพลงที่ถูกปล่อยมาเรียกน้ำย่อย หลังจากYou Can Count On Meเมื่อปีที่แล้ว จากอัลบัมที่หลายคนรอคอยTomboy... งานแรกหลังจากประสบความสำเร็จถล่มถลายทั้งคำวิจารณ์และชื่อเสียง จากอัลบัม Person Pitch ในปี 2007 และงานร่วมกับวงAnimal Collectiveของเขา ที่ชื่อ Merriweather Post Pavilion ในปี 2009

ความรู้สึกหลังจากฟัง Last Night at The Jetty คือ... นี่เรายังเรียกงานของPanda Bearว่าเป็น Experimental ได้อีกหรือ? เพราะมันโครงสร้างเพลงป็อปที่จับต้องได้ดีๆนี่เอง นึกถึงพวกเพลงยุค80sๆโรแมนติกๆอย่างพวก Brian Ferry, Kate Bush, Peter Gabriel...แต่ใช้เสียงร้องและlayerแห่งเสียงแบบ The Beach Boys แทน ใช้ความหนืดของคอร์ดกีต้าร์ที่ขยับๆหยุดๆ ไปกับกลอง ในการสร้างท่อนส่ง ท่อนฮุค ที่เก๋ๆไซคีเดลิกดี-- ถึงจะเป็นงานที่ฟังง่ายขึ้น แต่ยังสัมผัสได้ถึงความหลักแหล่มในการเรียบเรียง เช่นความหนาของเสียงร้องตรงท่อน "I Know, I Know..." ที่ทั้งแน่นและเนียนจริงๆ ...ใส่หูฟังดีๆฟังซ้ำๆยิ่งมีอะไรให้ค้นหา

สิ่งนึงที่มันจะถูกมองข้าม คือ เนื้อเพลงของเขา... ซึ่งผมว่าเพลงนี้ มีเนื้อที่เหงาๆขรึมๆลุ่มลึกๆดี (แม้จะไม่รู้ว่า Jettyคืออะไร) เกี่ยวกับตั้งคำถาม "Didn't We Have A Good Time" และตอบคำถามตัวเองซ้ำๆ คล้ายกับระลึกความหลัง...หลอกตัวเอง...ถวิลหา...

mp3:: Panda Bear: "Last Night at the Jetty" (via)

17 October 2009

mv>> stock footage>> Atlas Sound w. Noah Lennox - "Walkabout" | Logos (2009)


งานตัดต่อเจ๋งๆจากสมาชิกyoutubeท่านหนึ่ง ซึ่งใช้stock footageจากarchive.org มาผสมผสมผสานเป็นmvที่อบอวลด้วยอารมณ์ถวิลหาวัยเยาว์(พักนี้ดนตรี'ถวิลหาๆ' เริ่มจะออกมาเยอะแหะ)...ต้องขอบคุณอินเตอร์เน็ตจริงๆ

...สำหรับเพลงนี้มาจากAtlas Sound(แจมโดย Panda Bear) จากอัลบัมLogosที่กำลังจะออกภายในเดือนนี้ (ผมชอบอัลบัมที่แล้วของAtlas Soundทีเดียว) >>คลิกขวา

09 October 2009

50 อัลบัมโปรดแห่งทศวรรษ2000 #15-11

My 50 Favorite Albums of the Decade #15-11

.
.
<< ย้อนไปอ่าน #20-16
.
.
.

15. Daft Punk | Discovery (2001)

อ่า... Daft Punk ...มีอะไรต้องพูดถึงอีกเนี่ย ...Discoveryเป็นอัลบัมที่ทุกคนรัก (ไม่ว่าจะเป็นคอฟังเพลงแนวไหน หรือ ระดับไหน) ส่วนตัวผมรู้สึกว่าว่าอรรถรสในการฟังอัลบัมนี้คือ "มันสนุกดีอะ" มัน...สนุก... จำกัดความแค่นั้นๆจริง มันสนุก..ฟังแล้วสนุกดี... ซาวน์มันชวนนึกถึงรายการการ์ตูน ไตเติ้ลทีวี วีดีโอเกมส์... ความบันเทิงฉาบฉวย(แต่ใสซื่อ)พื้นฐานของเราๆ แม้ใครจะพยายามวิเคราะห์ความเจ๋งของอัลบัมนี้อย่างไร สุดท้ายผมก็ยังชอบมันเพราะมันสนุกดี ...เป็นอัลบัมเต้นรำที่แสนกระชุ่มกระชวย เป็นplaylistสบายๆสำหรับเช้าวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปโรงเรียน (แนะำนำ: One More Time , Digital Love , Harder Better Faster Stronger) (myspace | wiki)


14. Panda Bear | Person Pitch (2007)

side-projectมันจะมีอะไรน่าสนใจ? ส่วนมากก็แค่การระบายอีโก้ที่ไม่สามารถทำได้ขณะอยู่ในวง แต่แล้วPanda Bearก็ช็อคพวกเรา อัลบัมบรรจุเพียง7เพลง(แต่หลายเพลงยาวเกิน10นาที) แต่ละเพลงใช้เสียงแซมป์ไม่เกินจาก4-5แหล่ง (มาจากทั้งเพลงsurf, gospel, folk,...) ...ตัดบางเสี้ยวมาใช้เพียงไม่กี่วินาทีแล้ววนลูปซ้ำไปซ้ำมา ที่เหลือคือeffectบ้าๆบอๆเช่นเสียงรถชน...เสียงนกฮูก...และสุดท้าย อัดเสียงร้องที่ชุ่มไปด้วยreverb ...ผลคือมันฟังไม่เหมือนเพลงที่ทำโดย"ดีเจ"แม้แต่น้อย แทนที่จะรู้สึกถึงฝีมือการบิดพริ้วและปรุงแต่งเสียง มันกลับดูโบราณ low-tech เรียบราบติดดินราวกับเพลงชาวป่า...เพลงระบำรอบกองไฟ นี่แหละ..less is more! สรุป...ลืมทุกอย่างที่เคยรู้จักเกี่ยวกับดนตรีอินดี้ หรือ คำจำกัดความของดีเจ ...นี่คือดนตรีจากต่างดาว! (แนะนำ: Bro's , Ponytail , Comfy In Nautica) (myspace | wiki)


13. Air France | No Way Down EP (2008)

EPเล็กๆ ...บรรจุ6เพลงชวนฝัน ...เป็นซาวน์แทร็กของชีวิตผมในปี2008อย่างเป็นทางการ ...มันเป็นดนตรีรื่นรมณ์...ล่องรอย...และถวิลหาช่วงเวลาแห่งความสุขในวัย เยาว์ แต่ละแทร็คราวกับพาเราเดินเล่นริมหาดในฤดูร้อนที่แสกนดิเนเวีย ซุ้มเสียงที่ถูกแซมป์...มันถูกนำมาใช้ราวกับถ้ิอยคำในที่ค้างคาในทรงจำของ เราจากที่ไหนซักแห่งในอดีต ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก (แนะนำ:Collapsing at Your Doorstep , No Excuses , June Evenings) (myspace | wiki)

http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/5/5e/Madvillainy_cover.png/200px-Madvillainy_cover.png
12. Madvillain | Madvillainy (2004)

Madvillain Madvillainy เป็นอัลบัมฮิปฮอปที่ เหล่าคนโหดๆเถื่อนๆดุๆหลีหญิงๆทำตัวเก๋าที่เรียกตัวเองว่า 'กูเป็นฮิปฮอปตัวจริง' อยากจะเกลียดได้ แต่เหล่าคอดนตรีตัวจริงคงต้องหลงรักมันอย่างหัวปักหัวปำ มันเป็นมากกว่าการเปิดโลกทัศน์ของคนที่ไม่ใช่คอเพลงแนวนี้(อย่างผม) แต่มันเป็นคอนเส็ปอัลบัมที่สมควรถูกนำไปวางไว้บนหิ้งแล้วทำเคารพอย่าง แท้จริง (มองข้ามว่ามันเป็นเพลงแนวอะไรก็เหอะ) / คุณจะอะไรในงานชิ้นนี้ๆ ...คุณจะพบความสามารถในการตัดแปะขั้นเทพของMadlib ทำนำเสน่ห์ของดนตรีหล่อๆโซลว์ๆ ผสมผสามกับความแป๋นแล๋นของpop culture (ไตเติ้ลรายการทีวี การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เก่าๆ) และฝีปากการแร๊ปสุดกำกวมabstract ของ DOOM ที่สร้างความฟุ้งๆรั่วๆมึนๆ ให้อัลบัม / จากเพลงแรกถึงเพลงสุดท้ายถูกผูกเรียงร้อยออกมาเป็นการตูนเก๋าๆเรื่องนึกที่ เหมาะจะดูตอนเมา เหอๆ(แนะนำ: Accordion, All Caps, Rhinestone Cowboy) (myspace | wiki)

11. Arcade Fire | Funeral (2004)

... เหตุผลที่พวกเขาชนะใจคนมากมายนอกเหนือจากฝีมือและความสามารถแล้ว ก็ด้วย"หัวใจ"ที่เกินร้อยของพวกเขานี่แหละ ในยุคสมัยที่"อินดี้ก็เป็นอินดี้" Arcade Fireแสดงให้เห็นว่าอินดี้เป็นได้มากกว่านั้น ...มันเล็กแต่ใหญ่ และ มันใหญ่แต่เล็ก มันเรียกตัวเองว่าอินดี้ได้เต็มปาก แต่มันก็ดังเป็นพลุแตกในmainstreamได้ ...เป็นดนตรีที่เท่ห์และซีเรียส ... เราคาดว่ามันเป็นดนตรีที่เป็นฟังสบายๆ...แต่สุดท้ายเราไม่สามารถฟังมันอย่าง ฉาบฉวยหากต้องการสัมผัสแก่นลึกของมัน สัมผัสด้านที่ปวดร้าวในน้ำเสียงของWin Butler ...สัมผัสความNostalgiaที่ปกคลุมไปทั่วอัลบัม (แนะนำ: Tunnels , Power Out , Rebellion (Lies)) (myspace | wiki)
.
.
(เข้าสู่ Top Ten)
อ่านต่อ อันดับ 10-6 >>>
.
.
.