My 50 Favorite Albums of the Decade #15-11
.
.
<< ย้อนไปอ่าน #20-16
.
.
.
15. Daft Punk | Discovery (2001)
14. Panda Bear | Person Pitch (2007)
.
.
<< ย้อนไปอ่าน #20-16
.
.
.
15. Daft Punk | Discovery (2001)
อ่า... Daft Punk ...มีอะไรต้องพูดถึงอีกเนี่ย ...Discoveryเป็นอัลบัมที่ทุกคนรัก (ไม่ว่าจะเป็นคอฟังเพลงแนวไหน หรือ ระดับไหน) ส่วนตัวผมรู้สึกว่าว่าอรรถรสในการฟังอัลบัมนี้คือ "มันสนุกดีอะ" มัน...สนุก... จำกัดความแค่นั้นๆจริง มันสนุก..ฟังแล้วสนุกดี... ซาวน์มันชวนนึกถึงรายการการ์ตูน ไตเติ้ลทีวี วีดีโอเกมส์... ความบันเทิงฉาบฉวย(แต่ใสซื่อ)พื้นฐานของเราๆ แม้ใครจะพยายามวิเคราะห์ความเจ๋งของอัลบัมนี้อย่างไร สุดท้ายผมก็ยังชอบมันเพราะมันสนุกดี ...เป็นอัลบัมเต้นรำที่แสนกระชุ่มกระชวย เป็นplaylistสบายๆสำหรับเช้าวันเสาร์ที่ไม่ต้องไปโรงเรียน (แนะำนำ: One More Time , Digital Love , Harder Better Faster Stronger) (myspace | wiki)
14. Panda Bear | Person Pitch (2007)
side-projectมันจะมีอะไรน่าสนใจ? ส่วนมากก็แค่การระบายอีโก้ที่ไม่สามารถทำได้ขณะอยู่ในวง แต่แล้วPanda Bearก็ช็อคพวกเรา อัลบัมบรรจุเพียง7เพลง(แต่หลายเพลงยาวเกิน10นาที) แต่ละเพลงใช้เสียงแซมป์ไม่เกินจาก4-5แหล่ง (มาจากทั้งเพลงsurf, gospel, folk,...) ...ตัดบางเสี้ยวมาใช้เพียงไม่กี่วินาทีแล้ววนลูปซ้ำไปซ้ำมา ที่เหลือคือeffectบ้าๆบอๆเช่นเสียงรถชน...เสียงนกฮูก...และสุดท้าย อัดเสียงร้องที่ชุ่มไปด้วยreverb ...ผลคือมันฟังไม่เหมือนเพลงที่ทำโดย"ดีเจ"แม้แต่น้อย แทนที่จะรู้สึกถึงฝีมือการบิดพริ้วและปรุงแต่งเสียง มันกลับดูโบราณ low-tech เรียบราบติดดินราวกับเพลงชาวป่า...เพลงระบำรอบกองไฟ นี่แหละ..less is more! สรุป...ลืมทุกอย่างที่เคยรู้จักเกี่ยวกับดนตรีอินดี้ หรือ คำจำกัดความของดีเจ ...นี่คือดนตรีจากต่างดาว! (แนะนำ: Bro's , Ponytail , Comfy In Nautica) (myspace | wiki)
EPเล็กๆ ...บรรจุ6เพลงชวนฝัน ...เป็นซาวน์แทร็กของชีวิตผมในปี2008อย่างเป็นทางการ ...มันเป็นดนตรีรื่นรมณ์...ล่องรอย...และถวิลหาช่วงเวลาแห่งความสุขในวัย เยาว์ แต่ละแทร็คราวกับพาเราเดินเล่นริมหาดในฤดูร้อนที่แสกนดิเนเวีย ซุ้มเสียงที่ถูกแซมป์...มันถูกนำมาใช้ราวกับถ้ิอยคำในที่ค้างคาในทรงจำของ เราจากที่ไหนซักแห่งในอดีต ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก (แนะนำ:Collapsing at Your Doorstep , No Excuses , June Evenings) (myspace | wiki)
12. Madvillain | Madvillainy (2004)
Madvillain Madvillainy เป็นอัลบัมฮิปฮอปที่ เหล่าคนโหดๆเถื่อนๆดุๆหลีหญิงๆทำตัวเก๋าที่เรียกตัวเองว่า 'กูเป็นฮิปฮอปตัวจริง' อยากจะเกลียดได้ แต่เหล่าคอดนตรีตัวจริงคงต้องหลงรักมันอย่างหัวปักหัวปำ มันเป็นมากกว่าการเปิดโลกทัศน์ของคนที่ไม่ใช่คอเพลงแนวนี้(อย่างผม) แต่มันเป็นคอนเส็ปอัลบัมที่สมควรถูกนำไปวางไว้บนหิ้งแล้วทำเคารพอย่าง แท้จริง (มองข้ามว่ามันเป็นเพลงแนวอะไรก็เหอะ) / คุณจะอะไรในงานชิ้นนี้ๆ ...คุณจะพบความสามารถในการตัดแปะขั้นเทพของMadlib ทำนำเสน่ห์ของดนตรีหล่อๆโซลว์ๆ ผสมผสามกับความแป๋นแล๋นของpop culture (ไตเติ้ลรายการทีวี การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เก่าๆ) และฝีปากการแร๊ปสุดกำกวมabstract ของ DOOM ที่สร้างความฟุ้งๆรั่วๆมึนๆ ให้อัลบัม / จากเพลงแรกถึงเพลงสุดท้ายถูกผูกเรียงร้อยออกมาเป็นการตูนเก๋าๆเรื่องนึกที่ เหมาะจะดูตอนเมา เหอๆ(แนะนำ: Accordion, All Caps, Rhinestone Cowboy) (myspace | wiki)
EPเล็กๆ ...บรรจุ6เพลงชวนฝัน ...เป็นซาวน์แทร็กของชีวิตผมในปี2008อย่างเป็นทางการ ...มันเป็นดนตรีรื่นรมณ์...ล่องรอย...และถวิลหาช่วงเวลาแห่งความสุขในวัย เยาว์ แต่ละแทร็คราวกับพาเราเดินเล่นริมหาดในฤดูร้อนที่แสกนดิเนเวีย ซุ้มเสียงที่ถูกแซมป์...มันถูกนำมาใช้ราวกับถ้ิอยคำในที่ค้างคาในทรงจำของ เราจากที่ไหนซักแห่งในอดีต ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก ...มันราวกับความฝัน ...ไม่ซิ!มันดีกว่าฝันเสียอีก (แนะนำ:Collapsing at Your Doorstep , No Excuses , June Evenings) (myspace | wiki)
12. Madvillain | Madvillainy (2004)
Madvillain Madvillainy เป็นอัลบัมฮิปฮอปที่ เหล่าคนโหดๆเถื่อนๆดุๆหลีหญิงๆทำตัวเก๋าที่เรียกตัวเองว่า 'กูเป็นฮิปฮอปตัวจริง' อยากจะเกลียดได้ แต่เหล่าคอดนตรีตัวจริงคงต้องหลงรักมันอย่างหัวปักหัวปำ มันเป็นมากกว่าการเปิดโลกทัศน์ของคนที่ไม่ใช่คอเพลงแนวนี้(อย่างผม) แต่มันเป็นคอนเส็ปอัลบัมที่สมควรถูกนำไปวางไว้บนหิ้งแล้วทำเคารพอย่าง แท้จริง (มองข้ามว่ามันเป็นเพลงแนวอะไรก็เหอะ) / คุณจะอะไรในงานชิ้นนี้ๆ ...คุณจะพบความสามารถในการตัดแปะขั้นเทพของMadlib ทำนำเสน่ห์ของดนตรีหล่อๆโซลว์ๆ ผสมผสามกับความแป๋นแล๋นของpop culture (ไตเติ้ลรายการทีวี การ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่เก่าๆ) และฝีปากการแร๊ปสุดกำกวมabstract ของ DOOM ที่สร้างความฟุ้งๆรั่วๆมึนๆ ให้อัลบัม / จากเพลงแรกถึงเพลงสุดท้ายถูกผูกเรียงร้อยออกมาเป็นการตูนเก๋าๆเรื่องนึกที่ เหมาะจะดูตอนเมา เหอๆ(แนะนำ: Accordion, All Caps, Rhinestone Cowboy) (myspace | wiki)
... เหตุผลที่พวกเขาชนะใจคนมากมายนอกเหนือจากฝีมือและความสามารถแล้ว ก็ด้วย"หัวใจ"ที่เกินร้อยของพวกเขานี่แหละ ในยุคสมัยที่"อินดี้ก็เป็นอินดี้" Arcade Fireแสดงให้เห็นว่าอินดี้เป็นได้มากกว่านั้น ...มันเล็กแต่ใหญ่ และ มันใหญ่แต่เล็ก มันเรียกตัวเองว่าอินดี้ได้เต็มปาก แต่มันก็ดังเป็นพลุแตกในmainstreamได้ ...เป็นดนตรีที่เท่ห์และซีเรียส ... เราคาดว่ามันเป็นดนตรีที่เป็นฟังสบายๆ...แต่สุดท้ายเราไม่สามารถฟังมันอย่าง ฉาบฉวยหากต้องการสัมผัสแก่นลึกของมัน สัมผัสด้านที่ปวดร้าวในน้ำเสียงของWin Butler ...สัมผัสความNostalgiaที่ปกคลุมไปทั่วอัลบัม (แนะนำ: Tunnels , Power Out , Rebellion (Lies)) (myspace | wiki)
No comments:
Post a Comment