Pages

09 October 2009

50 อัลบัมโปรดแห่งทศวรรษ2000 #5-1

My 50 Favorite Albums of the Decade #5-1

.
.
<< ย้อนไปอ่าน 10-6
.
.
.

5. Joanna Newsom | The Milk-Eyed Mender (2004)

เธอ อายุ20ต้นๆ เล่นเพลงfolkด้วยharp เสียงร้องเธอแปร่งๆ ...ดนตรีของเธอร่ายมนต์สะกดสยบทุกความเคลื่อนไหว เสียงร้องของเธอร่ายมนต์ขลังราวกับบทสวดหรือการแสดงavant-garde มันเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแต่ก็อบอุ่นไร้เดียวสาราวกับเล่านิทาน ไม่มีอะไรที่ยากที่จะเข้าใจในดนตรีของเธอ มันไม่มีอะไรมากนอกจากเสียงร้องและเครื่องดนตรีชิ้นหรือสองชิ้น แต่ก็เพียงพอที่จะเติมเต็มโสตการรับรู้ของผู้ฟังแล้ว...เธอมีเสน่ห์ มีความน่ารักใสๆแบบpop starมีความเปรี้ยวแบบ rock star แต่ก็แอบมีความทนงแบบศิลปินสุดโต่ง ...ยากที่จะไม่ตกหลุมรักเธอ (แนะนำ: Sprout and the Bean , The Book of Right-On , Clam, Crab, Cockle, Cowrie) (wiki | wiki)


4. Animal Collective | Merriweather Post Pavilion (2009)

ที่ก็ล่วงเลยมาถึงปี2009แล้ว โค้งสุดท้ายของยุค00s ...การใช้คำว่าดนตรีทดลองกับชุดนี้คงไม่ถูกนัก เพราะนี่ไม่ใช่เวลาลองผิดลองถูกแล้ว...นี่คือภาษาใหม่ของดนตรี...ศิลปินรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าการ"เล่นดนตรีที่ไม่ต้องใช้การเล่นเครื่องดนตรี"ควรจะถูกใช้อย่างไรให้เหมาะกับโลกแห่งดนตรีป็อป นี่ไม่ใช่ภาษาของดีเจ...นั่นมันเก่าแล้ว จริงอยู่...มันยังฟังล้ำหลุดโลก...แต่เสียงประหลาดๆเหล่านั้นแท้จริง เป็นแค่เครื่องมือที่นำมาปั้นแต่งดนตรีป็อปที่ติดหู ..ที่มันส์ ..ที่สนุก ...สะท้อนความธรรมดาๆในชีวิตประจำวันของชนชั้นกลางวัยทำงาน ...เป็นความสวยงามในความจำเจของModern Life ...ไม่เกินจริงนักถ้าจะบอกว่านี่คือPet Soundsของยุคสมัยเรา (แนะนำ: My Girl , Daily Routine , In The Flowers) (myspace | wiki)


3. Burial | Untrue (2007)

โลกดนตรียุค2000sคือการเอาของเก่ากลับมาใช้ใหม่ใช่ไหม? ทุกสิ่งได้ถูกค้นพบหมดแล้วใช่ไหม? Burialทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับที่ผมเึคยรู้สึกกับอัลบัม Lovelessของ My Bloody Valentine(ทั้งๆที่คนละแนวกัน) ก็คือ บางครั้งความOriginalมันอยู่แค่ว่าหยิบส่วนผสมมาใช้ให้ถูกเท่านั้น ...Burialไม่ได้Recycle ไม่ได้Retro เขาหยิบสิ่งที่มีอยู่แล้วมีผสมให้ลงตัวพอดิบพอดี และเป็นส่วนผสมที่ไม่มีใครพบมาก่อน ...อะไรคือส่วนผสมที่ว่า? Soundscape จากดนตรี Orchestra ... เสี้ยวจากเสียงร้องแบบR&B ....ดนตรี Ambient Industrial ...และสุดท้าย(และโดดเด่นที่สุด) มิกซ์ในจังหวะแบบ Dubstep ผลคือ... ซาว์นที่สุดแสนจะCinematic เสียงบรรยากาศทำหน้าที่locationแบบฟิล์มนัวร์ ใต้หมอกควันแห่งอุตสาหกรรม เสียงร้องทำหน้าที่คาแรกเตอร์ มีทั้งไดอาล็อค และ การแสดงออกทางอารมณ์ OrchestraคือScoreบรรเลงคลอหนัง ...จังหวะขัดๆของมัน ทำให้มันลึกลับ น่าสงสัย น่าค้นหา ...เยือกเย็น หนาวเหน็บ เดียวดาย (Archangel , Ghost Hardware , Shell of Light) (myspace | wiki)


2. The Avalanches | Since I left You (2001)

"Since I left you , I found the world so new , Everyday..." นี่ไม่ใช่เพียงอัลบัมที่สุดยอด แต่ถือเป็นเพลงยาว60นาทีที่ดีสุดเท่าที่ผมเคยฟังมา...กว่าหลายร้อย คลิปเสียงจากหลากหลายแห่ง ทั้งเพลงเก่าซุกใต้ตู้ที่ไม่มีใครจำ จนถึงเพลงดังของ Madonna หลายร้อยเสียงจากภาพยนตร์ , จากโฆษณา ,วิทยุ , เกมส์... เลยถึงเสียงบ้าๆบอๆอย่างเสียงม้า ...นี่คือสุดยอดงานศิลปะตัดแปะที่งดงามที่สุดชิ้นนึงของโลกดนตรี เสมือนการเดินทางในโลกมหัศจรรย์... ตั้งแต่ต้นจนจบคือการผจญภัย.... "ชายลาตินสองสามคนยิ้มแย้มต้อนรับคุณเข้าสู่ปาร์ตี้ ยินดีต้อนรับสู่แดนสวรรค์ ที่วินาทีนึงกำลังเต้นรำอยู่กับบทเพลงที่งดงาม เสียงบีตก็เข้ามาพร้อมกับ เครื่องเป่าในยุค70s ไม่ทันไรเสียงฟิ้วฟ้าวของยานอะไรซักอย่างก็พาคุณลอยไปที่อื่น แต่พอลืมตาอีกทีคุณกลับอยู่โลกใต้ดิน ที่มีเสียงลั่นกลอง เสียงร้องภาษาแปลกๆ ทุกคนมีปืนแสงเลเซอร์ยิงขึ้นฟ้า ..คุณได้ยินเสียงคลื่นทะเล ลมเย็นพัดใส่หน้า อิ่มเอมกับธรรมชาติไม่นาน เสียงปรบมือดังไปทั่ว แล้วนักจิตวิทยาก็ปลุกคุณ ทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน คุณมันบ้า...ตูม!พิราบยักษ์บุกเข้ามา! นางฟ้าโฉบมาช่วยคุณไว้ แล้วคุณก็หลุดไปในโลกภาพยนตร์ขาวดำ แล้วทุกคนก็ออกมาเต้นรำ จังหวะพลันสนุกขึ้น จนกระพริบตาอีกที คุณก็อยู่ในฟลอร์ทันสมัยด้วยแสงสี คุณล้มลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า ไฟฉายมาที่คุณคนเดียว นักดนตรีเครื่องเป่าเครื่องสายร่วมกันบรรเลงให้กำลังใจคุณ ไฟทุกดวงเปิด คุณตกลงในน้ำ แล้วที่อย่างก็ค่อยๆหายไป การเดินทางจบลง แต่คุณอยากกลับไปอีกครั้ง..." นี่คือข้อพิสูจน์ที่จับต้องได้ว่า "ดนตรีคือศิลปะ" (แนะนำ: Since I Left You , Stay Another Season , A Different Feeling) (myspace | wiki)



1. The Strokes | Is This It (2001)



(ไม่มีคำบรรยาย)

จบ



1 comment:

homogenic said...

เพิ่งได้มาฟัง Since I left you ของ The Avalanches ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่มันสุดยอดมากจริง ๆ