My 50 Favorite Albums of the Decade #20-16
.
.
<< ย้อนกลับไป #25-21
.
.
.
.
.
<< ย้อนกลับไป #25-21
.
.
.
อีก หนึ่งผลผลิตช่วงต้นยุค2000s อีกวงที่อยู่ในหมวดgarage rockในช่วงนั้น Interpolนำสเน่ห์แบบ Joy Division(ร้องเสียงหม่นๆ ...ริฟท์กีต้าร์น้อยๆคมๆ เบสลงปิ๊คหนักๆ...)กลับมา ผสมผสานกับด้วยจังหวะมันส์ๆแบบฟังค์ร็อค ผลออกมาราวกับภาพฟิล์มขาวดำที่ฉายภาพความยิ่งใหญ่อลังการ แพร่กระจายอารมณ์หม่นหมองๆเท่ห์ๆออกมายอย่างต่อเนื่อง ...แต่หาได้ย้ำคิดย้ำทำแบบวงdarkๆจมดิ่งสู่ความโศก (ประเภท'ดูดบุหรี่ โยกหัว กรีดข้อมือ') แต่มันเดินหน้าเต็มกำลัง ด้วยเบสที่เดินไม่หยุด กีต้าร์ซาบซ่าราวกับเสียงเครื่องยนต์ ...นี่ทำให้พวกเขาโดดเด่นขึ้นมาเกินหน้าหลายๆวงในช่วงเดียวกัน หนึ่งในแถวหน้าของกระแส post-punk ที่ออกตามมามากมาย วงเวียนplaylistผมอย่างต่อเนื่องในปี2002 (NYC , Obstacle 1 , Roland) (myspace | wiki)
หลายคนเรียกพวกเขาว่า วงที่ดีทีุ่สุดตลอดกาล ...เย็นไว้ ...เย็นไว้ ...เอาว่ายุค2000s ที่ปราศจากวงจากIcelandวงนี้ คงไม่สามารถเรียกได้ว่ายุค2000s ...อะไรทำให้วง"ลอยๆ"วงนี้ไม่ถูกประนามว่าทำสิ่งที่วงอย่าง Spiritualized หรือ Slowdive ทำมาแล้ว? อืม...ผมคงจะตอบว่า ...จริงอยู่ว่า Sigur Ros ก็ใช้การสร้างSoundscapeให้ยิ่งใหญ่หรูหราฟุ้งกระจาย ไม่ต่างกับวงshoegazeในยุค90sหลายๆวง แต่ในเพลงของSigur Ros มันมี "ความหวัง"อยู่... มันไม่่ได้หลับตาแล้วลอยไปเรื่อยๆ (แบบไซคีเดลิก)... ในอัลบัมนี้(และอัลบัมอื่นด้วย)ของพวกเขา มีการวาดภาพสวงสวรรค์บางอย่างขึ้นมาด้วย...มันเป็นโลกยูโทเปีย...สิ่งนั้นทำให้หลายๆคนแม้จะฟังสิ่งที่พวกเขาร้องไม่รู้เรื่องเลย ก็สามารถถูกสะกดด้วยสภาพแวดล้อมที่งดงาม ...งดงามอย่างเรียบง่าย ...แม้จะล่องลอยแต่ไม่หลงทาง ...และ ไอ้'ความหวัง'นี่แหละอาจจะคือสิ่งที่พวกเรา(ชาว2000s)โหยหาที่สุด (แนะนำ: Svefn-g-englar, Starálfur, Olsen Olsen) (myspace | wiki)
18. Kanye West | The College Dropout (2004)
อ่า... Kanye West ยุค2000sที่ปราศจากท่าน คงเงียบเหงาน่าดู / Kanye West เปิดประตูของโลกhiphop สู่โลกของดนตรีอินดี้ วัฒนธรรมอินเตอร์เน็ต และทำในบางมุม เหมือนๆกับช่วยชีวิตดนตรีhiphop หลุดจากโลกใต้ดิน วัตถุนิยมจอมปลอม(แข่งกันรวย แข่งกันเก๋า) ไปสู่ดนตรีที่ใช้ประสบการณ์ทางดนตรีอย่างลึกซึ้ง(จากซาวน์ที่แสนอิ่มหูในอัลบัม ที่ถ้าไม่แน่จริงๆ ไม่สามารถคัดสรรค์ปั้นแต่งได้ขนาดนั้น) มีเนื้อหาแบบชนชั้นกลาง แบบปัญญาชน แต่ก็หาได้'ลืมตัว' กลับกันเล่าเรื่อง การต่อสู้ทางชนชั้นของคนผิวดำได้ลึกซึ้งกว่า ศิลปินที่เสนอตัวว่าเป็น'แร็ปคนดำแท้ๆ' เสียอีก / สำหรับผม อัลบัมเดบิวของเขา รวมไปถึงสองอัลบัม'ไตรภาคการศึกษา'ของเขาที่ตามมา เปิดหูเปิดตาผมมากมายเหลือเกิน (แนะนำ: Spaceship, Jesus Walks) (myspace | wiki)
งานดนตรีแนว "บิ้วจิตใจให้สดชื่น" ชั้นดีจากหนุ่มสวีดิช ...มันมีกลิ่นอายของความเป็นเทพนิยาย... มันสดใส มันร่าเริง มันแพรวพราวไปด้วยเสียงดนตรีกรุ๊งกริ๊งลั้นลา ร้องออกมาด้วยเสียงที่มองโลกแง่ดีเหมือนการเล่าเรื่อง หรือ เหมือนเขียนไดอารี่ปกสีชมพูน่ารักๆ ...ใช่...บางครั้ง มันก็มีเรื่องเศร้า...มีเรื่องน่าใจหายชวนน้ำตาคลอ แต่สุดท้าย เครื่องสายเบาๆเคล้าเครื่องเป่า ก็ช่วยเพิ่มอมยิ้มเล็กๆที่มุมปากให้เราได้ เหมือนปาร์ตี้เล็กๆข้างหูจากคนที่หวังดี มันทำให้เราหลับตาและหนีจากโลกความจริงอันโหดร้ายไปสู่โลกจินตนาการอันสวยงามได้ัช่วงเวลานึง (แนะนำ: The Opposite Of Hallelujah , A Postcard To Nina , It Was A Strange Time In My Life) (myspace | wiki)
ผมเริ่มรู้จักอัลบัมนี้ในฐานะ อัลบัมที่ชนะรางวัล Mercury Prize เหนือศิลปินที่overratedที่สุดของยุค00s ผมพบว่ามันเป็นอัลบัม'เพราะๆ'ที่แสนปราณีต ละเมียดละไมในทุกรายละเอียด ทั้งอัลบัมปกคลุมไปด้วยความอบอุ่น ดำเนินเรื่องด้วยความอ้อยอิ่งเนิ่บนาบ ฉายภาพฉากบรรยากาศแห่งความ"เหงาแต่สุข"..."ทุกข์แต่มีความหวัง"...เป็นดนตรี ที่กลั่นใจออกมาราวกับว่ามันเป็นทางเดียวที่จะใช้สื่อสารกับโลก ...เพื่อบอกเล่าเรื่องราว เพื่อระบายความอัดอั้น เพื่อบอกรัก หรือเพื่อบอกลา ...หรือบางทีทั้งอัลบัมอาจเป็นความทรงจำของใครซักคนที่เราบังเอิญได้ยิน เหมือนตอนเพลงFall In A River ค่อยๆเฟดอินเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย...แล้วจมน้ำหายไป /// (แนะนำ: The Shining , Pissing in the Wind) (myspace | wiki)
No comments:
Post a Comment