My 50 Favorite Albums of the Decade #25-21
.
.
<< ย้อนไปอ่าน 30-26
.
.
.
23. Feist | Let It Die (2004)
21. Animal Collective | Strawberry Jam (2007)
.
.
.
.
<< ย้อนไปอ่าน 30-26
.
.
.
ผม พบวงญี่ปุ่นประเภท "ป็อปคิกขุใช้กีต้าร์โปร่งเล่น เคาะโน้นเคาะนี่...กรุ้งกริ๊ง" มามากหลายวง ...สำหรับผมวงเหล่านั้นมัน'ช่างน่าเบื่อ'... มันมีแค่เปลือกที่น่าสนใจ มันเป็นมิตรกับหูเรา มันดูไร้พิษภัย ...แต่ก็แค่นั้น... ขุดอะไรลึกกว่านั้นไม่ได้แล้ว... จนกระทั่งพบกับงานของ Shugo นี่แหละ ... แม้Shugoจะไม่ลดทอนความซับซ้อนของลูกเล่นของเขา แต่เพลงของเขาก็ไม่ได้ออกมาเป็น"นั่งปั่นกีต้าร์โชว์ออฟ" แบบหลายๆศิลปินที่คล้ายกันเป็น แต่กลับเป็นความอ่อนน้อมในเพลงของเขา ที่ทำให้เราต้องคารวะต้องฝีมือของเขา ...เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่ได้แพรวพราวแต่เทคนิค ...ความละเอียดละออในการเรียบเรียงดนตรีของเขา มันช่างล้ำลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผมเห็นด้วยกับหลายๆบทวิจารณ์ที่ว่าดนตรีป็อปเนื้อๆแน่นๆของ Shugo ชวนให้นึกถึงดนตรีของ The Beatles โดยเฉพาะประมานยุค Rubber Soul และกลิ่นโฟล์คบางอย่างจากยุค White Album... ผสม J-popนิดๆ ดนตรียิปซี่หน่อยๆ (แนะนำ: Parachute , Green Rain , Button )
มี วงชื่อแนว "The อะไรซักอย่างS" กำเนิดขึ้นมากมายในช่วงต้นยุค00s พยายามทำเพลงดิบๆ ดีดกีต้าร์ก๊องแก๊งแล้วเรียกตัวเองว่า Retroบ้าง Garage Punkบ้าง ...หลายวงเหล่านั้นล้มหายตายจากไปหมดสิ้นแล้ว ...อัลบัมนี้ของ Yeah Yeah Yeahs ก็เคยโดนผมตั้งคำถามเหมือนกันว่าจะ'ของจริง' ขนาดไหน ...ผมพอจะได้คำตอบลางๆ จากคำใบ้บางอย่าง...วงนี้มีfront womanที่ราศีร็อคสตาร์จับอย่างแรง เธอเพี้ยนเธอบ้าๆบอๆ หลุดโลก ร้องแบบใส่ใจเกินร้อย ...มือกีต้าร์วงนี้ 'ไม่ธรรมดา' สร้างสรรค์'ความซับซ้อนในความมั่วซั่ว'ได้อย่างเหนือชั้น และสุดท้ายพวกเขามีมือกลองสุดเก๋าเหนือวง'โรงรถๆ'ทั่วไปอย่างชัดเจน...ท่าม กลางความดิบๆห่ามๆฟังค์ๆ มันมีความสวยงามซับซ้อนบางอย่างอยู่ นั่นทำให้วงนี้ยังอยู่ถึงทุกวันนี้ และ หวังว่าจะโตขึ้นไปเรื่อยๆ (แนะนำ: Date with the Night , Tick , Y Control ) (myspace | wiki)
.23. Feist | Let It Die (2004)
นี่คือ Feist ก่อนโฆษณา iPod ...ก่อนMVเพลง "1234" นี่คือ Feist ที่ผมรู้จักในนามหนึ่งในสมาชิก Broken Social Scene (aka. สถาบันอินดี้แห่งยุค2000) ผมพบว่าอัลบัม Let It Die เป็นดนตรีอินดี้ที่อยู่ใกล้กับความเป็น Indie Cliche แต่ชนะมาได้อย่างขาวสะอาด.... มันมีความเป็นEasy-Listeningสำหรับเด็กแนว หมายความว่ามันมีความ"ชิวๆ" "บอสซ่าๆ" "แจ๊ซๆ" มันหรูหราอิ่มเอิบไปด้วยเครื่องเป่าเครื่องเคาะ แบบถูกจริตคนฟังเพลงรุ่นนี้ ไม่ว่าเราจะพยายามหาต้นขั้วมันมาจากแหล่งใด แต่สุดท้ายFeist ผสมผสานมันออกมาเป็นเพียงสิ่งที่พูดง่ายๆว่า Indie-Popดีๆ มันพูดง่ายแต่ทำยาก นั่นเลยทำให้มีศิลปินที่'คล้ายๆ Feist' ออกมามากมายเหลือเกิน ///(แนะนำ: Mushaboom , One Evening , Secret Heart)
ดี เจสาวจากเยอรมันผู้นี้มีฝีมือการผสมปรุงแต่งเสียงได้เด็ดดวง มีลูกเล่นลีลาลูกทดลองที่น่าตื่นตาตื่นใจท้าทายหู แม้ดนตรีของเธอเป็นมีความเป็นหุ่นยนต์...มีบีตที่แรง...มีเบสที่หนัก มีความทำลายล้าง มีเสียงฉีกขาดของเสียงสังเคราะห์ที่ถูกกระชากอย่างรุนแรง แต่มันมีชีวิตจิตใจ... มันมีีความสุนทรีย์... เป็นหุ่นยนต์ที่มีความเย้ายวน... อาจจะมาจากหมอกแห่งเสียงที่เธอวาดไว้...บดบังเสียงบีตที่ไร้จิตใจ หรือ จากเสียงร้องบางๆของเธอที่ปรากฏเรื่อยๆในอัลบัมก็แล้วแต่ ...นี่เป็นอัลบัมเทคโนที่ผมดีใจที่ค้นพบ และ ยังติดอยู่ในใจเสมอมา /// (แนะนำ:Alles Sehen , Wish , Trash Scapes) (myspace | wiki)
ดี เจสาวจากเยอรมันผู้นี้มีฝีมือการผสมปรุงแต่งเสียงได้เด็ดดวง มีลูกเล่นลีลาลูกทดลองที่น่าตื่นตาตื่นใจท้าทายหู แม้ดนตรีของเธอเป็นมีความเป็นหุ่นยนต์...มีบีตที่แรง...มีเบสที่หนัก มีความทำลายล้าง มีเสียงฉีกขาดของเสียงสังเคราะห์ที่ถูกกระชากอย่างรุนแรง แต่มันมีชีวิตจิตใจ... มันมีีความสุนทรีย์... เป็นหุ่นยนต์ที่มีความเย้ายวน... อาจจะมาจากหมอกแห่งเสียงที่เธอวาดไว้...บดบังเสียงบีตที่ไร้จิตใจ หรือ จากเสียงร้องบางๆของเธอที่ปรากฏเรื่อยๆในอัลบัมก็แล้วแต่ ...นี่เป็นอัลบัมเทคโนที่ผมดีใจที่ค้นพบ และ ยังติดอยู่ในใจเสมอมา /// (แนะนำ:Alles Sehen , Wish , Trash Scapes) (myspace | wiki)
21. Animal Collective | Strawberry Jam (2007)
เส้นทางของ Animal Collective นั้นยาวไกล ..ผ่านความเป็นวงฟรีกๆประหลาดๆเพี้ยนๆมาหลายย่านน้ำ จนกระทั่งStrawberry Jam ที่ผมพบว่า...พวกเขาพบภาษาของตัวเองแล้ว ... ภาษาที่ Animal Collectiveใช้ มันช่างoriginalเหลือเกิน ส่วนผสมของความ"จริงแท้ไร้ความปรุงแท้" (จาก เสียงกีต้าร์โปร่งแบบโฟล์คดั่งเดิม กับ ตีกลองดิบๆแบบ Velvet Underground) และ "ความสังเคราะห์ไร้ความจริงแท้" (จาก การมิกซ์...การแซมป์ผสมผสานบิ้วเบี้ยวเสียงด้วยเครื่องจักรสมองกล จนฟังดูไร้ชีวิต) ผลคือ ดนตรีที่มีกลิ่นอายไซคีเดลิก ที่หูมนุษย์หุ่นยนต์สังคมเมืองคอนกรีตอย่างๆเราสามารถเข้าถึงมันได้ ..."อย่างเป็นธรรมชาติ" ///(แนะนำ Peacebone , Fireworks , Derek)
..
.
No comments:
Post a Comment